การพัฒนาคอมพิวเตอร์จะมีผลกระทบต่อบทบาท และหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วย
๑) การป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบเรียบร้อย รัฐบาลจึงต้องมีการดำเนินการด้านการทหาร ตำรวจ ทะเบียนราษฎร์ การออกกฎหมาย และการพิจารณาคดี เป็นต้น
๒) การอนามัย มีการวางมาตรการป้องกันโรคระบาด ควบคุมอาหาร และการรักษาพยาบาล
๓) การศึกษา เพื่อผลิตแรงงานในการพัฒนาประเทศ
๔) การให้บริการ เช่น การไปรษณีย์ การโทรศัพท์ การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกสภาจังหวัด การโฆษณาและประชาสัมพันธ์
๕) การหารายได้ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินการของรัฐบาลด้านต่างๆ ได้แก่ การเก็บภาษีแบบต่างๆ
๖) สวัสดิการ ได้แก่ การจัดการรักษาพยาบาลให้ข้าราชการและผู้ป่วยอนาถา สวัสดิการด้านการศึกษาแบบต่างๆ เป็นต้น
๗) การวางแผน และพัฒนาประเทศ ทั้งนี้รวมไปถึงการวางนโยบายการควบคุม ได้แก่ การวางแผนพัฒนาประเทศ การวางนโยบายการผลิตด้านแรงงาน ด้านอาชีพ ด้านเกษตรกรรม และด้านอุตสาหกรรม เป็นต้น
จะเห็นว่า หน้าที่ทุกอย่างของรัฐบาล ถ้าจะทำให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นจะต้องนำคอมพิวเตอร์มาช่วยดำเนินการ ซึ่งจะส่งผลกระทบในภาครัฐบาลเป็นอย่างมากพอจะสรุปได้ดังนี้
ในการป้องกันประเทศ และการรักษาความสงบเรียบร้อย อาวุธสงคราม เช่น เครื่องบิน รถถัง เรือรบ และเรือดำน้ำ อาวุธเหล่านี้ จะมีไมโครโปรเซสเซอร์ หรือคอมพิวเตอร์เข้าไปควบคุมกลไกต่างๆ ผู้ที่เคยใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในอดีต รวมทั้งช่างซ่อมบำรุง จำเป็นต้องมาเรียนรู้เพิ่มเติมใหม่ เพราะจะมีการเปลี่ยนรูปแบบ และวิธีการ อาวุธที่มีอยู่เดิมจะล้าสมัย ทำให้รัฐบาลต้องพิจารณาหาทางเปลี่ยนแปลงปรับปรุงใหม่ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก การเรียน การฝึกอบรมบุคลากร การจัดกำลังพล การส่งกำลังบำรุง เหล่านี้จะต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ระบบการติดตามอาชญากร การทำทะเบียนรถเหล่านี้ จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงาน
ระบบการออกกฎหมาย และการพิจารณาคดี จำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยดำเนินการ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการติดตาม
นอกจากนี้ การออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานทางคอมพิวเตอร์จะมีความจำเป็น เช่น กฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนตัวของประชาชน กฎหมายการใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อการจารกรรมต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะก่อความปั่นป่วนต่อการดำเนินคดีในอนาคตได้
การดำเนินการ เพื่อติดตาม และป้องกันโรคต่างๆ นั้น คอมพิวเตอร์สามารถช่วยงานเหล่านี้ได้ โรงพยาบาลของรัฐจึงจำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาช่วย และเพื่อให้ได้ประโยชน์ในการดำเนินการสูงสุด จึงจำเป็นต้องสร้างขอบข่ายของงานต่อถึงกัน ในรูปของการสร้างคลังข้อมูลที่จะใช้ร่วมกันได้ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้คือ ถูกบังคับให้ทำงานในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง ปัญหาข้อมูลบางด้านหายไป ข้อมูลของตนอาจใช้ผิดพลาด ถ้าหากรัฐบาลไม่ได้มีการเตรียมการไว้ดีเพียงพอ
การผลิตแรงงานในระดับต่างๆ ของประเทศ จำเป็นต้องมีข้อมูลในการวางแผนการศึกษาที่ดี จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการดำเนินการบริหารงานการศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบให้มีการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ระบบข้อมูลที่ดีย่อมมีผลกระทบให้การวางนโยบายดีขึ้น และทันต่อเหตุการณ์
ความก้าวหน้าด้านคอมพิวเตอร์ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงระบบสื่อสาร ทั้งทางไปรษณีย์ และโทรคมนาคม ทำให้ต้องมีการรื้อของเก่าออก และนำของใหม่เข้ามาแทนที่ เพื่อให้สามารถติดต่อกับต่างประเทศได้สะดวก ดังนั้นต้องมีการลงทุนด้านงบประมาณไปเป็นจำนวนมาก
ด้านการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด จำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อการประเมินผลว่า คำพูดที่ใช้ วิธีการที่ใช้ และเวลาที่ใช้ เหล่านี้ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างไรบ้าง ควรมีการปรับปรุงประการใดบ้าง เหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สงสัย หรือเกิดความไม่สบายใจ ถ้าไม่ได้เตรียมการ และสร้างความเข้าใจที่ดีพอ
การหารายได้ของรัฐบาลที่สำคัญคือ การจัดเก็บภาษี ลักษณะงานดังกล่าว จำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาช่วยงานให้ดำเนินการรัดกุมรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ที่เสียประโยชน์ การที่จะดำเนินการให้ได้ระบบที่สมบูรณ์ได้ อาจจะยังมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน จนกว่าการวางระบบงานจะทำได้อย่างสมบูรณ์
สวัสดิการของรัฐต่อประชาชน จะมีการเรียกร้องกันมากขึ้น ทำให้รัฐต้องเสียงบประมาณด้านนี้มากขึ้นทุกที รัฐจึงต้องหาวิธีการตรวจสอบให้ละเอียด และถูกต้องมากยิ่งขึ้น การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในอนาคต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแนวการดำเนินการ และจำเป็นต้องเชื่อมโยงถึงคลังข้อมูลด้านอื่น เช่น ข้อมูลด้านทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น ทำให้ผู้ปฏิบัติจะต้องเรียนรู้ และเมื่อปฏิบัติได้ก็ยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ที่เสียประโยชน์ทางด้านนี้ด้วย
ในการวางแผน และพัฒนาประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องสร้างระบบสารนิเทศที่สมบูรณ์ขึ้น ซึ่งจะต้องลงทุนอีกเป็นอันมาก หากมีปัญหาอยู่ที่ว่า ทำอย่างไรจึงจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องเข้ามาอยู่ในระบบสารนิเทศ ทำอย่างไรจึงจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงระบบสารนิเทศของหน่วยงานอื่นๆ ได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นปัญหาหนักต่อผู้ปฏิบัติงาน ลงไปถึงผู้รวบรวมข้อมูล การลงรหัสจะยังผลกระทบให้เกิดความไม่สบายใจต่อประชากรโดยทั่วไป ถึงแม้ว่า บางเรื่องอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่คนทั่วไปก็อาจจะกล่าวว่า เป็นเพราะคอมพิวเตอร์ ทำให้ประชากรต้องเดือดร้อน เช่น รัฐบาลอาจจะให้มีการกรอกแบบสอบถามที่ละเอียดว่า มีอาชีพอะไรบ้าง รายได้เท่าใด เป็นต้น แต่เมื่อมีคอมพิวเตอร์การดำเนินการด้านนี้จะมีมากขึ้น
ความจำเป็นของรัฐบาลไทยในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้จะมีมากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการ เพื่อจัดองค์การของรัฐบาลให้แน่ชัด เพื่อการติดต่อกับส่วนราชการในท้องถิ่น และการประเมินผลการปฏิบัติงาน รวมถึงการบีบบังคับทั้งโดยทางตรง และทางอ้อมจากหน่วยงานในภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ บริษัทการเงิน และรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้อง แต่สิ่งเหล่านี้รัฐบาลจะยังไม่สามารถดำเนินการได้รวดเร็วนัก เนื่องจากขาดบุคลากรที่รู้อย่างแท้จริง ตลอดจนการต่อต้านของกลุ่มแรงงาน และผู้ปฏิบัติ และการไม่ทราบแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การใช้คอมพิวเตอร์ในภาครัฐบาลจะขยายตัวมากขึ้น และจะมีผลในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานของข้าราชการในบางหน้าที่ เช่น การจัดเก็บเอกสาร งานธุรกิจ การจัดหนังสือเข้าและออก การจัดเก็บภาษี และการทำทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น
เพื่อให้งานดังกล่าวข้างต้นเป็นไปด้วยดี ผลกระทบจากคอมพิวเตอร์จะทำให้ต้องมีการสร้างระบบเลขประจำตัวของประชากร ระบบรหัสหน่วยงาน รหัสโครงการ รหัสต่างๆ ที่ใช้แทนงานลักษณะต่างๆ เป็นต้น
ปัญหาของการใช้ภาษาไทยกับคอมพิวเตอร์จะเป็นเรื่องที่ก่อปัญหาในการดำเนินการของรัฐบาลอยู่เป็นอันมาก
รัฐบาลจะต้องแก้ไขระบบสื่อสาร โดยเฉพาะด้านโทรศัพท์จะเป็นปัญหาหนักอย่างมาก
ผลกระทบในระยะยาวที่รัฐบาลอาจจะประสบปัญหา เมื่อถึงระยะเวลาที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยงาน และเมื่อการบริการมีลักษณะที่เป็นไปโดยอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น คือ การเรียกร้องให้ลดเวลาการทำงานลง แต่ในเวลาเดียวกันจะเรียกร้องให้เพิ่มเงินเดือนขึ้น